การใช้งานและการตั้งค่า​ MA และ​EMA indicator

 

MA EMA

MA (Moving Average) และ EMA (Exponential Moving Average) เป็นเครื่องมือทางเทคนิคที่นิยมใช้ในการวิเคราะห์กราฟราคาหุ้น สินค้าโภคภัณฑ์ หรือฟอเร็กซ์ เพื่อดูแนวโน้มและการเคลื่อนไหวของราคา การตั้งค่าและการใช้งานมีความแตกต่างเล็กน้อยระหว่าง MA และ EMA ดังนี้:

1. MA (Moving Average)

MA คือค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ ซึ่งคำนวณโดยเฉลี่ยราคาของช่วงเวลาที่กำหนด
การตั้งค่า
1. เลือกกรอบเวลาที่ต้องการ เช่น 10 วัน, 50 วัน หรือ 200 วัน
2. ใช้สูตรคำนวณ:
MA = \frac{\text{ผลรวมราคาปิดในช่วงเวลา}}{\text{จำนวนช่วงเวลา}}

การใช้งาน

ใช้ดูแนวโน้มราคา:
เส้น MA ขึ้น -> แนวโน้มขาขึ้น
เส้น MA ลง -> แนวโน้มขาลง

ใช้เป็นแนวรับ-แนวต้าน:

ราคาแตะเส้น MA แล้วกลับตัว -> อาจเกิดแนวรับ-แนวต้าน
ใช้ร่วมกับเส้น MA หลายช่วงเวลา เช่น MA 50 กับ MA 200:
เส้น MA 50 ตัดขึ้นเหนือ MA 200 -> สัญญาณซื้อ (Golden Cross)
เส้น MA 50 ตัดลงต่ำกว่า MA 200 -> สัญญาณขาย (Death Cross)

2. EMA (Exponential Moving Average)
EMA เน้นให้น้ำหนักราคาล่าสุดมากกว่าช่วงก่อนหน้า ทำให้ตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงเร็วกว่า MA

การตั้งค่า
1. เลือกกรอบเวลา เช่น 12 วัน, 26 วัน
2. ใช้สูตรคำนวณ EMA (หรือใช้โปรแกรมคำนวณให้)
EMA = (ราคา \times \alpha) + EMA_{ก่อนหน้า} \times (1 - \alpha)

การใช้งาน
ใช้ดูแนวโน้มเช่นเดียวกับ MA แต่ตอบสนองเร็วกว่า
ใช้กับเครื่องมือ MACD (Moving Average Convergence Divergence):
EMA 12 และ EMA 26 เป็นส่วนประกอบหลักของ MACD
เหมาะสำหรับตลาดที่มีการเคลื่อนไหวเร็ว เช่น ฟอเร็กซ์

เปรียบเทียบการใช้งาน MA และ EMA
ขั้นตอนการตั้งค่าในโปรแกรมเทรด
1. เปิดโปรแกรมเทรด เช่น MT4/MT5, TradingView
2. ไปที่เมนู Indicator หรือ Tool
3. เลือก Moving Average หรือ Exponential Moving Average
4. ตั้งค่ากรอบเวลา (Period) เช่น 50, 100, 200
5. เลือกประเภทเส้น (Simple หรือ Exponential)
6. กด "Apply" เพื่อแสดงผลบนกราฟ

ตัวอย่างการใช้งาน
MA 50 กับ MA 200: ดูแนวโน้มระยะยาว
EMA 12 กับ EMA 26: ใช้ใน MACD เพื่อหาจังหวะเข้า-ออก

Comments